จากเครื่องเดิมในบ้านราคา 2 พันกว่า > พิมพ์พอได้ สีดำหลุด
มาสู่การพยายามซื้อเครื่องใหม่ ราคา 4 พัน > ไม่รองรับกระดาษเกิน 180 แกรม
และมีเหตุให้ต้องเลื่อนชนชั้นขึ้นมาอีกสเต็ป > เป็นเครื่อง 1 หมื่น++
เครื่องลำดับสูงขึ้นที่เราดูในครั้งนี้ สามารถพิมพ์งานกระดาษหนา 300 แกรมได้ พิมพ์ A3 ได้
ยังไม่สามารถพิมพ์แบบหน้า-หลังได้ ต้องยูเทิร์นกลับกระดาษเอาเอง (แต่ไม่เป็นไร รับได้)
เป็นระบบ Inkjet ที่มี Inktank แยกถึง 6 สี อันจะได้งานพิมพ์ที่สีตรงมาก สวยมาก และประหยัด
เป็นที่ชื่นชอบในวงการอัดภาพถ่าย บัตรพนักงาน และงานอาร์ท ระดับ Home Studio
โห นี่มันเพชรชัดๆ
เราตัดสินใจซื้อเครื่องนี้แหละ มันคือ Epson L18050
สาเหตุที่ตกลงที่เครื่องนี้ยอมรับว่าเป็นเพราะ "ราคา" การจะทำบอร์ดเกมในครัวเรือนให้ได้ ไม่ควรใช้จ่ายแพงไปกว่า 1 หมื่น++ แล้วเนอะ
ไม่งั้นบทความนี้อาจกลายเป็น "บอร์ดเกมในโรงงาน" แทน "บอร์ดเกมในครัวเรือน"
แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีเรื่องให้ตกใจตามมาอยู่ดี
มาทำความรู้จักเครื่องนี้กันก่อน
เครื่อง Epson L18050 มีขนาดใหญ่ประมาณ ครึ่งเมตร x 30 ซม และสูงแถวๆ 15 ซม
มองดูด้วยตาเปล่าก็คงรู้ได้ว่ามันใหญ่กว่าเครื่องระดับ home-use ที่เราคุ้นเคย หน้าตาของมันมันเรียบหรู ดูมืออาชีพ
พอปิดฝาสนิททุกจุด มันจะดูเหมือนกล่องทรงสี่เหลี่ยมสีเทาเข้ม วางในบ้านแล้วสวยดี ไม่ดูเนิร์ด
แชทเชียร์ให้เราซื้อเครื่องนี้แบบสุดลิ่มทิ่มประตู มันบอกเราว่า "ว่าที่นักทำบอร์ดเกมในบ้านคนใหม่กำลังเกิดขึ้นแล้ว!!"
ไอ้เราก็บ้ายอซะด้วย
เรื่องตกใจ Wave ที่ 1
ก่อนจะซื้อ ลองเหลือบตาไปดูชนิดหมึกอีกครั้ง แต่รายละเอียดสินค้าไม่ได้ระบุว่าเป็น Dye-ink base หรือ Pigment ink
รวมทั้งยังไปเจอข้อความโฆษณาเพิ่มเติมจากร้านอื่นๆที่บอกว่า หมึกบนโลกนี้มันมีหมึกกันน้ำ และไม่กันน้ำ ด้วยนะ
เพื่อความกระจ่างเราเลยทักไปถาม Sale ของ Epson โดยตรง ว่า Epson L18050 ใช้หมึกกันน้ำมั้ย? ใช้ Pigment ink มั้ย?
ทางพนักงานให้คำยืนยันมาว่า เครื่องรุ่น L18050 นี้
เป็นหมึก Dye และไม่กันน้ำ. . .
เอาล่ะสิ การกันน้ำดันเป็นหัวข้อใหม่ที่โผล่ขึ้นมาจนได้ เราควรต้องกังวลเรื่องกันน้ำแค่ไหนกัน
คำว่า "ไม่กันน้ำ" ทำไมพูดเบาๆก็รู้สึกเจ็บ งานออกมาแล้วสีจะละลายหายไปหากโดนเหงื่อที่มือเรารึเปล่า?
ด้วยความรู้สึกกวนใจเหมือนเวลา punch บอร์ดเกมแล้วมีเศากระดาษเล็กติดอยู่ไม่ยอมขาดตามไปด้วย
เราจึงสอบถาม sale เพิ่มเติมว่า แล้วถ้าอยากให้เป็นหมึก Pigment ที่กันน้ำล่ะ จะต้องทำยังไง
พนักงานบอกให้เราขยับไปซื้อเครื่องสเปกสูงขึ้นอีกรุ่น!!
คราวนี้ต้องขยับจาก 4,xxx ไปยังรุ่น 1x,xxx ไม่พอ ต้องขึ้นไปยังรุ่นที่ราคา 17,xxx จนถึงเกือบ 3x,xxx หรือนี่
ก่อนที่ทั้งภาพในหัวและเงินในกระเป๋าจะเตลิดไปกว่านี้ พนักงานถามกลับมาเบาๆว่า คุณจะนำไปผลิตอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่า
อาทิเช่น ฉลากสินค้าน้ำส้มเกล็ดที่ต้องแช่ในถังน้ำแข็ง หรือบอร์ดเกมรุ่นเล่นในอ่างจางกุชชี่ได้
(แน่นอนว่าอย่างหลังเค้าไม่ได้ถาม แต่ฉันเล่าเพิ่มเองเพื่อความเห็นภาพ)
หากไม่ได้ทำชิ้นงานที่ต้องสัมผัสน้ำแบบนั้น เครื่อง L18050 เป็นเครื่องที่งานพิมพ์ทนทานดีแน่นอน
ได้ฟังเช่นนั้นเราก็ใจเย็นลง เศษกระดาษที่ติดเป็นติ่งตอน punch board หลุดออกไปได้นิดนึง
นิดนึงจริงๆ
เรื่องตกใจ Wave ที่ 2
นอกจากบอร์ดเกมจะต้องปริ๊นต์การ์ด ปก และกระดานแล้ว พวกเรายังต้องปริ๊นต์คู่มืออีกด้วย
โดยมากกระดาษที่ใช้ทำคู่มือมักเป็นกระดาษที่ไม่หนา มีเนื้อเงากึ่งด้านที่พลิกอ่านไปมาแล้วรู้สึกเนียน ทนมือ
ถามคนเคยทำโรงพิมพ์เค้าก็บอกได้ทันทีว่า มันเรียกว่า "กระดาษอาร์ต" สุดคูล
ระหว่างการค้นหากระดาษในฝันเพื่อมาใช้งานกับเครื่อง Inkjet ก็ได้พบความจริงสุดช็อก
และความจริงคือ ไม่มีกระดาษอาร์ตไหนเลยที่สามารถใช้งานกับเครื่อง Inkjet ได้!!! หาเท่าไหร่ก็ไม่เจอ
และถ้าเราอยากจะปริ๊นต์คู่มือบนกระดาษอาร์ตอันแสนเรียบลื่นอย่างกระดาษอาร์ตให้ได้ล่ะก็
เราต้องขยับขึ้นไปใช้เครื่องระดับ Epson Surecolor หรือ R-Series ที่ค้นหาราคาเล่นๆแล้วอยู่ที่ 3x,xxx - 2xx,xxx บาท
หรือไม่ก็ต้องใช้เครื่องพิมพ์แบบ offset เท่านั้น!! โอวมายก็อด
ทุกเส้นทางไปจบลงที่โรงงานอีกแล้ว
เท่านั้นแหละภาพชนชั้นในหัวมันผุดขึ้นมาเลย
Printer ก็มีชนชั้นนี่หว่า โลกนี้ไม่เท่าเทียมไปถึงเรื่อง printer เลย
ฉันมันช่าง Naive เข้าใจผิดมาตลอดว่าเครื่องพิมพ์ทุกเครื่องถูกสร้างมาเพื่อปริ๊นต์ได้เหมือนกัน
ที่ไหนได้ บางตัวเกิดมาเพื่อปริ๊นต์การ์ดเกมระดับ 6 สีไปออกงานที่ ESSEN
ในขณะที่บางตัวเกิดมาแค่พิมพ์ prototype เกมได้บุญละ ทำนู่นไม่ได้ ทำนี่ไม่ได้ กระดาษนั้นไม่ได้ สีแบบนู้นไม่ได้ เต็มไปหมด
จากข้อมูลที่ได้ พลันเห็นเป็นภาพชนชั้นในหัว เลยอยากขอสรุปชนชั้นให้อ่านตามนี้
PRINTER CLASS WAR
ณ อาณาจักร BOARDGAMEBERG ประกอบด้วยชนชั้นต่างๆ คือ
ชนชั้นกระยาจกตัวอ่อน >> พิมพ์เอกสารได้ แต่พอจะพิมพ์ปกตายสนิท
มันคือ printer หลักพันนิดๆที่เราต่างเติบโตมาในวัยเด็ก พิมพ์รายงานส่งคุณครูทีต้องไหว้เครื่องก่อนให้มันราบรื่น
แต่พอจะพิมพ์ปกซัดคะแนนพิศวาสจากคุณครู ถ้าเครื่องไม่พิมพ์ออกมาเป็นเส้นๆ ก็จะร้องครืดคราดแล้วตายคางานแทน
พร้อมกระดาษปกแสนแพงที่ติดอยู่ข้างใน ดึงออกได้พร้อมดึงอายุขัยเครื่องออกไปพร้อมกัน
ชนชั้นนี้พิมพ์การบ้านส่งครูได้ อย่างอื่นทำไม่ได้
(ตัวอย่าง)
ชนชั้นชาวบ้านกับเครื่องบ้านๆของเค้า >> คิดว่าได้ของดี แต่ทำไมพิมพ์ทีนานจังฟะ
ราคาเครื่องอยู่ที่ระดับ 2xxx - 3xxx ที่พิมพ์ได้ทุกอย่าง แต่ดีไม่สุดซักอย่าง ว่างๆสีดำหลุด (บางยี่ห้อบางรุ่น)
ใช้เวลาพิมพ์แต่ละใบนานยิ่งกว่ารอเทิร์น จะดีก็แค่เรื่องกิน กินหมึกเก่งงงง แถมหัวตันเก่งงงง (ต้องคอยไปแช่ออนเซ็นน้ำร้อน)
หากจะทำมาหากินกับเครื่อง printer ชนชั้นนี้ให้ลืมไปก่อน แต่ทำ prototype ขำๆพอได้อยู่
เพราะอาจเจอปัญหาด้านหมึกอุดตัน อีกทั้งการดึงกระดาษลงยังเบี้ยวไปมาอยู่
ชนชั้นมนุษย์เงินเดือน >> ตัวท็อปตลาดบ้าน แต่ห้ามใหญ่ ห้ามหนา ห้ามน้ำโดน ว้อยยห้ามเยอะสิ่ง
สนนราคาเครื่องขึ้นมาที่ 4xxx-5xxx (เช่น EPSON 3250) คนวงการสติ้กเกอร์จบงานได้ที่เครื่องนี้
แต่คนบอร์ดเกมอาจจะต้องใช้เทคนิค feed กระดาษหนาที่ท้ายเครื่องทีละแผ่น แล้วลุ้นเอาว่าดูดเข้ามั้ย เลอะมั้ย
หรือไม่ก็ต้องไต่ชนชั้นขึ้นไปอีกนิด เพราะเครื่องไม่ได้เกิดมาเพื่อกระดาษหนาเกิน 180 แกรม
ชนชั้นฟรีแลนซ์หวังเดบิ้วธุรกิจ >> บินเลื่อนขั้นสู่เครื่องระดับ Pro แต่ล่างสุดของ Pro นะ (เช่น Epson L18050)
เครื่องระดับนางฟ้าสำหรับคนบอร์ดเกมแล้วนะอันนี้ พิมพ์ได้หนาสุดที่ 300 แกรม
(และอาจถึง 360 แกรมด้วยเทคนิคบางอย่างแต่ยังไม่เคยลองนะ) มีกระดาษให้เลือกใช้สารพัด
ยกเว้นกระดาษเทพที่เอาไว้ใช้ทำเล่มคู่มืออย่างกระดาษอาร์ต สีสวยแถมประหยัดต้นทุนด้วยหมึก Tank
ในขณะที่เครื่องชนชั้นนี้แบบ Laser ทางเราไม่มีข้อมูลแน่นหนานัก
แต่แอบได้ข่าวว่า งานคมสวยจัด แต่มีข้อจำกัดบางอย่างเช่นกัน อาทิ สีเพี้ยน และการบำรุงรักษาแพง
ชนชั้นอีลีทไฮโซ >> สวย รวย และแพงมาก อีกนิดจะเปิดร้านรับพิมพ์ละ ราคาอยู่ที่ 3x,xxx - 5x,xxx
อันนี้นอกจากเครื่องจะใหญ่แล้ว บ้านต้องใหญ่ด้วยไม่งั้นวางเครื่องไม่พอ พิมพ์งานได้ระดับโรงพิมพ์เป๊ะๆ
การ์ดหนา 360 แกรมรึ สบายมาก สวยครบไฮโซจัด แต่ cost ต้นทุนต่อการผลิตก็จะแพงด้วยนิดนึง
เพราะจุดนี้คือการเหยียบเรือสองแคมละ ระหว่าง บอร์ดเกมในครัวเรือน หรือ ทำบอร์ดเกมที่โรงงาน
เสียเงินเยอะไม่พอ เสียเวลาเยอะด้วยถ้ามัว DIY
ชนชั้นเทพเจ้าดาวเหนือพร้อมคฑาเซเลอร์มูนในมือ >> เทพจัด ทำได้ตั้งแต่การ์ดเกมโง่ๆยันโล่รางวัล (ปริ๊นต์ลงบนโล่)
ราคา 1xx,xxx up แต่ระดับนี้อย่าเรียกว่าครัวเรือนเลย เรียกว่าโรงงานจะดีกว่า แต่ถ้าใครรวยก็จัดไป
------
ชนชั้น = จำกัดสิทธิ์การใช้งาน
Printer ก็เช่นเดียวกัน
เมื่อถึงจุดนี้ เราจึงหยุดการไต่ระดับชนชั้นอยู่ที่ ชนชั้นฟรีแลนซ์หวังเดบิ้วธุรกิจ หรือเครื่อง Epson Inktank L18050
น่าจะลงตัวที่สุดสำหรับบอร์ดเกมในครัวเรือนบ้านฉันละ
โพสหน้าขอแวะเล่าเรื่องกระดาษ และสารพัดชื่อเรียกต่างๆให้ฟัง สำคัญมาก รออ่านต่อนะ