ได้ printer ละ ต่อไปก็กระดาษ
จากที่คิดว่ารู้เรื่องกระดาษเรียบร้อยแล้ว รู้ว่ามันมีกระดาษ for Inkjet และ for Laser
แต่ที่ไหนได้โลกของกระดาษมันยังแยกย่อยซับซ้อนลงไปอีก โดยเฉพาะชื่อเรียกชวนงงพิศวงของพวกมัน
เหตุการณ์มันเริ่มจากการที่เราเริ่มมองหากระดาษมาทำเกม
โดยเริ่มต้นที่ "การ์ด" อุปกรณ์หลักของเกม ถ้าทำการ์ดรอด อย่างอื่นไม่ค่อยกังวลแล้ว (หลอกตัวเองแล้วหนึ่ง)
ภาพฝันในหัวคืออยากได้กระดาษที่ลื่นนิดๆ เงางามเล็กน้อย หนาๆ มีลายลินินบนกระดาษได้ยิ่งดี เอาล่ะสิ ต้อง search ว่าอะไรฟะ
จะทำการ์ด ก็ต้องเรียก "กระดาษการ์ด" รึเปล่า
ว่าแต่อ้าว ทำไมค้นหามาแล้วได้กระดาษสีเทาๆเหมือนกระดาษแข็งวะเนี่ย
พอเติมคำว่า Inkjet ก็ได้มาเป็น "กระดาษโฟโต้" เห้ยไม่ได้จะอัดภาพซักหน่อย
หันไปถามคนเคยทำ printing ที่บ้านมาก่อน เค้าบอกลองค้นหา "กระดาษอาร์ต" ซิ ได้ยินโรงงานพูดถึงบ่อยๆ
แต่พอหากระดาษอาร์ต กลับไม่มีกระดาษอาร์ทไหนเลยที่ใช้กับ Inkjet
แถมยังเจอฝรั่งปริ๊นต์งานอาร์ตที่บ้าน ด้วยกระดาษอาร์ต แล้วงานอาร์ตออกมาโคตรจะเละด้วย
ความที่ชื่อไม่ตรงปกของวงการกระดาษ พิศวงหนักของจริงเลย
ราวเกมยูโรที่ทำในอเมริกา และเกมอเมริแทรชที่ทำในยุโรป ว่าสั้น
และนี่คือสิ่งที่เราพบ ขอยกตัวอย่างในกรณีที่จะทำการ์ดก่อนนะ
หากเริ่มต้นที่ความเงาของกระดาษ มันจะแบ่งได้ 2 อย่างคือ เงา (glossy) หรือ ด้าน (Matt)
นอกจากนี้ยังมีลูกผสมเช่น กึ่งเงากึ่งด้าน (Semi-Gloss) ซึ่งแล้วทำไมมันไม่เรียก Semi-Matt บ้างนะ??
พอเรากำหนดความเงากระดาษที่ต้องการได้ละ ก็เริ่มค้นหากระดาษที่เหมาะกับระบบ printer ของเรา
ทีนี้ล่ะ ความมหัศจรรย์ตรงชื่อจะปรากฏขึ้น
หากค้นหาด้วยคำว่า กระดาษเนื้อเงา สำหรับ Inkjet ส่วนมากจะขึ้นมาด้วยคำว่า กระดาษโฟโต้
มีความหนาหลายระดับให้เลือก และมันเรียกตัวเองว่าโฟโต้ทั้งหมด แม้ว่าเราจะไม่ได้เอาไปอัดภาพถ่าย
ขนาดกระดาษจำพวกสติ้กเกอร์นะ พอเงาปุ๊บ มันยังเรียกตัวเองโฟโต้เลย!
คำว่า "โฟโต้" สร้างความกังวลนิดหน่อย
เมื่อเราคิดว่าผิวหน้าจะมีความเงาแว้บ แถมหนึบเหมือนกระดาษอัดภาพ (ซึ่งอาจจะทำให้หน้าการ์ดมันฝืด)
แต่มันก็ไม่เป็นงั้น เพราะมีแค่เงาแว้บเฉยๆก็มี ไม่ได้ฝืดหนึบเหมือนกระดาษอัดภาพไปซะหมด
ทีนี้หากค้นหาด้วยคำว่า กระดาษเนื้อเงา สำหรับ Laser คราวนี้แหละ
มันจะขึ้นมาด้วยคำว่า กระดาษอาร์ตมัน กันให้สลอนเลย
พูดง่ายๆก็คือ ถ้าเป็น Inkjet เงา เรียก >> "กระดาษโฟโต้"
พอเป็น Laser เงา เรียก >> "กระดาษอาร์ต"
ยังไม่จบ
พอคราวนี้ลองค้นหากระดาษด้านดูบ้าง
พูดง่ายๆก็คือ ถ้าเป็น Inkjet ด้าน มันเรียก >> "กระดาษอิงค์เจ็ทด้าน" อ้าวทีอย่างงี้ไม่เรียกโฟโต้แล้วแฮะ
พอเป็น Laser ด้าน เรียก >> "กระดาษอาร์ตด้าน" อ้าวยังอาร์ตอยู่แฮะ
แล้วถ้าจะสั่งกระดาษกึ่งเงากึ่งด้านของ inkjet ไม่ต้องเรียกว่า "กระดาษโฟกึ่งๆโต้" ป่าววะ
ส่วนคำว่ากระดาษการ์ดนี่ อย่าได้หลงกลมันเชียว
เพราะเป็นชื่อเรียกของกระดาษทั้งมวลที่มีความหนา ไม่สนว่าจะเป็นกระดาษเทาขาว กระดาษแข็งหลังดำ
กระดาษแข็งหลังขาว กระดาษปอนด์
กระดาษบาง แต่ถ้ามันเข้าใจว่าตัวมันเองหนา มันก็จะเรียกตัวเองว่ากระดาษการ์ดได้เหมือนกัน (หาาาาา)
ส่วนใครจะหากระดาษมาทำนามบัตร ซึ่งก็จะนับเป็นการ์ดประเภทหนึ่ง
แต่กลับต้องไปหาซื้อกระดาษที่ชื่อว่า "อาร์ตการ์ด" แทน อ้าวทีงี้ไงมีคำว่าอาร์ตเช้ย
และบางจ้าวเรียกว่า "กระดาษอเนกประสงค์" บ้าง "กระดาษสำหรับ business & postcard" บ้าง
ในความจริง ชื่อกระดาษมีการตั้งกันตามสะดวกฝั่งโรงงานมาแต่ไหนแต่ไร แต่ยากมากสำหรับฝั่งผู้บริโภค
ซึ่งถ้ากระดาษมันตะโกนบอกชื่อตัวเองได้ อยากให้มันตะโกนบอกง่ายๆแค่
"ข้าคือกระดาษแบบเงาสำหรับอิงค์เจ็ต เอาไว้ทำการ์ดบอร์ดเกมว้อยย" จบ
นอกจากนี้ ตอนก่อนหน้านี้ เราได้แอบพูดถึงกระดาษสุดยอดปรารถนาที่ชื่อว่า กระดาษอาร์ต มาหนหนึ่ง
ด้วยความที่ยังไม่ยอมถอดใจง่ายๆกับกระดาษชนิดนี้ (แม้จะซื้อ Epson L18050 มาแล้วก็ตาม)
เราจึงค้นหาต่อว่า มี "กระดาษอาร์ตสำหรับอิงค์เจ็ต" บ้างมั้ย
ปรากฎว่าเจอ!!! ใช้กับ L18050 ได้ด้วย แต่มันมาพร้อมข้อจำกัดสุดประหลาด นั่นคือ ต้องบังคับใช้กับน้ำหมึกของร้านเขาเท่านั้น!!
โอวว เรียกว่าต่อมเสือกทำงาน อยากรู้ให้ได้เลยว่าทำไม นายมีความลับอะไรทำไมไม่บอกเรา ห๊าาาา
ถามแชทดิ้ "แชทๆ ถ้าจะฝืนใช้กระดาษอาร์ตให้ได้ในเครื่อง inkjet เค้าทำไงกัน?"
โดนแชทสอนหนังสือกลับมาว่า
กระดาษอาร์ต คือกระดาษที่เรียบลื่นแบบไม่มีอะไรมากั้น ไม่ดูดซึมน้ำหมึก
พวกมันช่วยให้งานระดับ commercial ต่างๆคมสวยดูดี
ไม่ว่าจะโบชัวร์รถ เมนูอาหาร นิตยสารไฮโซ คู่มือ viticulture ตลอดจน การ์ดในเกม
แต่ต้องแลกด้วยวิธีการพิมพ์เฉพาะ
หากจะโกงพิมพ์กับ Inkjet ต้องใช้กระดาษอาร์ตที่มีสารเคลือบเฉพาะ อาทิ RC (Resin Coated) ซึ่งแพงจับใจ
หรือโกงแบบถูไถ ด้วยการใช้หมึก Pigment (แล้วรอแห้งเอา เพราะ Pigment อย่างน้อยก็แห้งเร็วกว่า)
หรือโกงเอาหมึก Pigment ไปใส่เครื่อง Dye-based ink (พิมพ์ได้ แต่แลกด้วยอายุขัยหัวพิมพ์)
หรือ ไปพิมพ์ offset กับที่โรงงานซะดีๆ (โอ๊ย ไล่กลับไปทำโรงงานอีกแล้ว)
พลันก็นึกถึงชื่อที่แท้จริงของ "กระดาษอาร์ต" ออก
ที่แท้มันคือกระดาษสวยแต่เรื่องมากระดับอาร์ตตัวแม่ นี่เอง!!
เอาล่ะ เพื่อการตัดสินใจที่ง่าย เราเลยทำ Flow เส้นทางการซื้อกระดาษของเรามาให้ดูง่ายๆ
ลองเล่นดู คิดซะว่าเล่น TRPG แบบ Interactive Choice Game ละกัน
ทีนี้มาดูผลลัพธ์จากการทดลองใช้กระดาษ 3 แบบ ไล่ไปทีละอัน
กระดาษ Inkjet Paper
300 แกรม เนื้อ Matt
ลองกระดาษด้านดูก่อน เพราะไม่ชอบกระดาษโฟโต้จริงๆ
กระดาษนี้พิมพ์ 2 หน้าได้
ผลที่ได้ จากภาพจะเห็นว่าความด้าน ต่อให้ปรับ quality สูงแค่ไหน
มันจะยังดูเหมือนงานประดิษฐ์อยู่ดี ฟีลเหมือนกระดาษปอนด์
ความรู้สึกคมชัดจะน้อย ทั้งๆที่ปริ๊นต์ออกมาคมนะ
และเนื้อกระดาษดูดฝุ่นได้ง่าย
กระดาษนี้อาจต้องไปเคลือบต่อเพื่อช่วยให้งานดูจบกว่านี้
แต่ความหนาและแข็งดีเลย น่าเสียดาย
กระดาษ Miracle Glossy Paper
260 แกรม ลายผ้า!!
ฟลุคมากที่เสิร์ชมาจนเจออันนี้
กระดาษสวยมากเป็นลายผ้าลินิน ที่เงาไม่มากเกินไป
พิมพ์ได้ 2 ด้าน และสีติดสวยมาก
งานออกมาเหมือนการ์ดที่มาจากโรงงานเลย
ถูกใจ
ข้อเสียนิดเดียว
รู้สึกว่าความหนา 260 แกรมจะบอบบางไปนิด
เวลาใส่ซองจะต้องระมัดระวัง
และผิวหน้ามีความหนึบเล็กน้อย (ตอนสับจะรู้สึกการ์ดติด)
ไม่รู้โรยแป้งทาไพ่จะช่วยมั้ยนะ แต่ถ้าใส่ซองล่ะก็เนี้ยบเลย
ตัวนี้ถ้าเค้ามีแบบ 300 แกรมจะดีมากๆ
กระดาษ COMAX DOUBLE SIDE INKJET PAPER
BUSINESS & POST CARD
300 แกรม เนื้อ Matte
ต้องหน้าปกเป็นสาวตาคมที่มีกลีบดอกไม้สีชมพูงอกออกมาตรงคอเท่านั้นนะ!
พิมพ์ 2 หน้าได้ และดูเหมือนจะเกิดมาเพื่อให้คนไปปริ๊นต์นามบัตร
ตัวกระดาษไปทางด้าน แต่เหมือนมีชั้นเคลือบบางๆคล้ายฟิล์ม
ที่ทำให้หน้ากระดาษมีความเงาขึ้นมาแบบกำลังสวยเลย
เมื่อเอานิ้วรูดการ์ดสองใบดู พบว่ามันมีความลื่นที่ดีงาม
แบบนี้แหละสับง่ายแน่นอน หนา มวลแน่น และดูไฮโซถูกใจ
ข้อเสีย
สีดรอป!! ต้องตั้ง quality สูงสุดและโกงเป็น Photo ด้วย
(ห้ามตั้ง Matte ตามชื่อเด็ดขาด)
นอกจากนี้ยังหายากมากกกกกก เหมือนไม่ฮิต และโรงงานจะไม่ทำเพิ่มแล้ว
ต้องไปไถจากร้านต่างจังหวัดที่มีค้างสต้อกเอา
หนทางการทำบอร์ดเกมโดยไม่พึ่งโรงงานนั้นยากจริงๆ
Quality ที่ดีไม่ถึง งานก็จะดูเป็น PnP มากไป กระดาษวัตถุดิบที่ถูกใจก็ยากยิ่งกว่าหาแฟน
ขอเอาใจช่วยทุกคนที่หาทางกันอยู่นะ และใครใช้กระดาษอะไรกันบ้าง แชร์หน่อยน้า