แฟชั่นที่ไหนก็ไม่สนุกเท่าที่ญี่ปุ่น! รับบทคนผลักดันเทรนด์แฟชั่น ตามเทรนด์ดีมั้ย หรือสร้างเทรนด์ใหม่ซะเลยดีกว่า งานเกมสนุกๆ
งานภาพน่ารัก ชื่อเกมว่า Trendy
#trendyboardgame #trendycardgames #payakarunboardgame #บอร์ดเกม #รีวิวบอร์ดเกม
เห็นแค่ปกก็โดดเข้าซื้อแล้ว แพ้ทางการทำธีมของญี่ปุ่นจริงๆ รอบนี้เอาเกมจาก 10 กว่าปีก่อน มาทำรีดีไซน์ให้เป็นเกมแฟชั่น หน้าปกออกแบบให้เหมือนแมกกาซีนญี่ปุ่นอย่าง JJ , CanCam
ซึ่งโพสนี้นอกจากจะเล่าวิธีเล่นคร่าวให้คุณอ่านแล้ว พยัคฆ์อรุณจะพาคุณไปรู้จัก Fashion Culture ที่มาของลุคต่างๆในเกมนี้ด้วย
เราจะได้เล่นกันอินขึ้น :)
ในเกมนี้จะพูดถึงแบรนด์เสื้อผ้า 5 แบรนด์ ที่ต่างเป็นตัวแทนของสไตล์แฟชั่นในญี่ปุ่นช่วง 80s - 90s
ได้แก่
B-THREE หรือเลข 3
Fourscene หรือเลข 4
V (Five) หรือเลข 5
S.I.X หรือเลข 6
และ Nanase Bunshichi ซึ่ง Nana แปลว่าเลข 7
เราเลยเห็นเด็กสาว 5 คน 5 สไตล์ขึ้นปกไงล่ะ
เราทุกคนจะได้ส่งสาวๆที่เป็นตัวแทนแบรนด์ลงสู่ "โตเกียวสตรีท" ลุคไหนที่คนลงมาเยอะก็มีโอกาสจะขึ้นเทรนด์
ในขณะที่ลุคอื่นจะดรอป และ OUT ในที่สุด นี่คือการ์ดสาวๆของแต่ละแบรนด์
ในการ์ดแบรนด์เดียวกัน ก็จะไม่ซ้ำกันอีก เพราะจะมีดีเทลที่ต่างกันเล็กน้อย
เหล่านี้คือ Super Girl หรือเด็กสาวคนดัง ใส่แบรนด์ไหน แบรนด์นั้นคนจะสนใจมากเป็นพิเศษ เทรนด์พุ่งปรี๊ด มีแค่แบรนด์ละใบเดียว
จะสังเกตเห็นว่า ตัวเลขที่มุมการ์ด Super Girl จะมีสองตัว เล่นใบเดียวเหมือนเล่นสองใบไปเลย
แต่ก่อนเล่นเกม มาทำความเข้าใจแฟชั่นญี่ปุ่นกันนิดนึงดีกว่า
ทำไมเรามองเกมนี้จึงรู้สึกถึงแฟชั่น 80s การ์ตูนมาโดกะ?
แฟชั่นญี่ปุ่นในช่วงยุค 80s ถือเป็นรอยต่อ ก่อนที่ญี่ปุ่นจะก้าวขึ้นเป็นชาติที่ครีเอทเทรนด์ได้น่าสนใจที่สุดในโลก ช่วงปี 80 นั้น ญี่ปุ่นฟื้นเศรษฐกิจหลังสงครามโลกครั้งที่สองจนขึ้นมาเป็นตัวท้อปทางเศรษฐกิจ และรับเอาแฟชั่นของอเมริกามาแบบเต็มๆ
เพลง หนัง และความบันเทิง รับบทสำคัญในการสร้างแฟชั่นขึ้น ทั้งซีรีย์ Miami Vice เจ้าหญิงไดอาน่า หรือแม้แต่มาดอนน่า
มาโดกะเลยแต่งตัวเหมือนมาดอนน่า หน้าม้าเหมือนไดอาน่า และซาเอบะเรียวจึงสวมสูททับเสื้อยืดแบบเดียวกับใน Miami Vice ซึ่งการ์ตูนยุคนี้เค้าแต่งตัวเก๋จริงๆ
ทีนี้มาดูที่มาของแต่ละลุคในเกม Trendy กัน
B-THREE
แบรนด์ที่เติบโตมาในถนนเส้นหลังของฮาราจูกุ หรือ Harajuku Ura
และอันนี้น่าจะเป็นช่วง 90s แล้ว
American + HipHop
แฟชั่นอเมริกัน ผสมดนตรีวง HipHop อย่าง RUN D.M.C ทำให้ญี่ปุ่นเริ่มฟักตัวแฟชั่นกลุ่ม HipHop Street ขึ้น ในขณะที่หน้าฮาราจูกุจะเป็นแฟขั่นอีกอย่างอย่างสิ้นเชิง ที่ท้ายถนนกลับเป็นสวรรค์ของสายสตรีท จะเห็นได้จากมี Bathing Ape เป็นแกนนำที่ Ura Harajuku
Fourscene
สืบต่อความ 80s ด้วยลุควินเทจแบบ American Pop Idol
ลุคนี้เลยที่ทำให้เกมนี้ดู 80s เพราะเป็นแฟชั่นที่วันรุ่นญี่ปุ่นต่างหยิบเอาเสื้อผ้าคุณภาพสูงจากอเมริกา มาปรับแต่งให้เข้ากับตัวเอง ตามอย่างดารานักร้องช่วงนั้น กางเกงยีนส์ Levis 501 เสื้อแจ็กเก็ตแนวสปอร์ท ตลอดจนชุดแนวแอโรบิก ลายกราฟฟิกต่างๆ
V (Five)
มาแหวกด้วยสไตล์ GAL
ภาพแบคกราวน์เห็นตึกชิบูย่า 105 ซึ่งมาจาก Shibuya109 นั่นเอง ตึกที่ขึ้นไปแล้วจะเจอกับสาวๆที่หลุดมาจากโลกแฟนตาซี
เพราะผู้หญิงญี่ปุ่นไม่ขอโตขึ้นมาเพื่อเป็นภรรยาใครซักคนอีกต่อไป พวกเธอเลยต่อต้านด้วยการครีเอทลุคที่มั่นใจขีดสุด ผมทอง ผิวที่แทนจนส้ม และการแต่งหน้าที่ถมเต็มไม่มีที่ว่าง
ย้อนกลับไป สิ่งที่เป็นต้นแบบของลุคนี้คือ Pamela Anderson จาก ซีรีย์ BAYWATCH และดนตรีขบถอย่าง Punk ซึ่งแบรนด์ที่คนญี่ปุ่นชอบมากก็คือ Vivienne Westwood ที่เราคุ้นว่าเป็นกระโปรงลายสก็อตชนั่นแหละ และแมกกาซีนที่ผลักดันลุคนี้อย่างสุดลิ่มทิ่มประตูคือ EGG MAgazine
ใครทันบ้าง
S.I.X
วัฒนธรรม Kawaii ซึ่งประจำการอยู่แดนหน้าสุดของสถานีฮาราจูกุ
สืบต่อจากการใส่เสื้อผ้าอเมริกัน แต่คราวนี้ mix and match ความสดใสขีดสุดลงไปด้วย จน Kawaii กลายเป็นวัฒนธรรมแฟชั่นอันโด่งดังของญี่ปุ่น
แถมยังพัฒนาสู่สไตล์ Lyceenne หรือ ชั้นจะแต่งตัวดุจสาวไฮสคูลเมืองปารีสด้วย!
จึงกลายเป็นกลิ่นอายคาวาอี้ แบบมีรสนิยม ใช้ของประดับจุกจิกนู่นนี่นิดหน่อย แต่ทั้งหมดเป็นแบรนด์เนมมีรสนิยม หมวก Baret กระโปรงลายเก๋ ถุงเท้า รองเท้าสีตัดกัน ในเกมนี้ S.I.X ก็จะดูปารีสหน่อยๆในบางชุด
Nanase Bunshichi จากหรูแลนด์ ย่าน Omotesando
ลุคสาวออฟฟิสสุดเฟียส ที่ลากยาวมาจากยุคดิสโก้นู่น เหมือนจะ OUT แต่ฆ่าไม่ตาย ลุคนี้เค้าเรียกว่า Bodycon
Bodycon มาจากคำว่า Body Conscious เมื่อสาวญี่ปุ่นในยุคมั่งคั่ง กลับมาปั๊วะปังหลังฟื้นจากสงครามโลก หรือยุค Bubble ทางการเงิน พวกเธอมีเงิน และที่สำคัญมีบทบาทในสังคมมากขึ้นกว่าการเป็นแม่บ้านย่ะ
กลางวันจงมองไหล่ใหญ่ๆเสริมฟองน้ำสูงของฉัน! และกลางคืนจงมองเรือนร่างฉันบนแด๊นซ์ฟลอร์!
สาวยุคนี้จะใส่ชุดออฟฟิสสีฉูดฉาด มีเลื่อมปักบ้าง ยีผมฟู และม้าโปร่ง
แมกกาซีนแฟชั่น รับบทสำคัญในการชี้ทางเทรนด์ JJ , Vivi , CanCam ,
Popeye - Magazine for City Boy และ Olive - Magazine for Romantic Girl
ในเกมนี้เลยมีการ์ด OUT หรือเป็นคอลัมน์พิฆาตแฟชั่น แบรนด์ละ 1 ใบ อันนั้นฉันว่ามันเอ๊าท์ซะแล้วจ่ะ
ซึ่งแมกกาซีนว่าไง สาวญี่ปุ่นว่าตามกันหมด เล่นการ์ดนี้ยังไงมาอ่านต่อกัน
วิธีเล่น (ซะที!)
เกมนี้เล่นได้ 2-5 คน
ให้เอาการ์ดทุกใบ ทั้งสามแบรนด์ , Super Girl , OUT สับรวมกันแล้วแจกคนละ 6 ใบ เว้นพื้นที่ตรงกลางระหว่างพวกเราทุกคนไว้
เวลาเล่น จะได้เลือกการ์ดแบรนด์ที่เราอยากดัน วางลงไป 1 ใบตรงหน้า ผลัดกันวางคนละใบวนไป เริ่มจากคนแรก วางแล้วจั่วคืน 1 ใบ ง่ายๆ
ช่วงนี้เปรียบเหมือนทุกคนกำลังส่งแบรนด์สู่โตเกียว ดูซิจะติดเทรนด์ได้มั้ย
เล่นกันจนการ์โหมดก็จบเกม
ทันทีที่แบรนด์ใดแบรนด์หนึ่ง มีจำนวนการ์ดลงมาทั้งหมด (ทุกคน) รวมกันเท่ากับตัวเลขของแบรนด์นั้น
เช่น B-THREE เลข 3 = 3 ใบ จะถือว่าติดเทรนด์ละจ้า!!~
ใครที่เล่นการ์ด B-THREE จะได้เก็บการ์ดตรงหน้าตัวเองไปเป็นคะแนน
อย่างในภาพ คนนี้เล่น 2 ใบ ก็ได้ 6 คะแนนละ
ส่วนใครที่เล่นแบรนด์อื่นในรอบนั้น ขอแสดงความเสียใจ
ตกเทรนด์จ้า รวบเททิ้งทั้งหมด
จากนั้นค่อยเล่นรอบใหม่ คราวนี้เริ่มจากคนถัดจากคนแรกตะกี้
การ์ด 4 ก็ต้องการ 4 ใบถึงจะติดเทรนด์
การ์ด 7 ก็ 7 ใบอะไรแบบนี้
ยิ่งเลขสูงยิ่งทำติดเทรนด์ยากกว่า แต่คะแนนก็สูงกว่าด้วย
การ์ด SuperGirl คือการ์ดพิเศษ เหมือนอินฟลูเอนเซอร์ ลงมาใบเดียวจะเหมือนลงมา 2 ใบ
ระหว่างเล่นอาจลงการ์ด OUT มาได้ถ้ามี ลงการ์ด OUT สีไหน แฟชั่นสีนั้นจะถูกบังคับให้ตกเทรนด์ทันที
สองนางจาก Five เลยต้องกลับบ้านเก่า
แบรนด์ที่โดนสั่ง OUT ก็จะถูกเก็บทิ้งทันที ส่วนใบที่เหลือก็เล่นกันต่อจนกว่าจะมีการติดเทรนด์ตามปกติ
เกม Trendy เป็นเกมที่มีมาตั้งแต่ 2006 และถือเป็นเกมที่เรียบง่ายที่สุดของนักออกแบบท่านนี้ แต่หลายคนเล่นกลับชอบ เพราะเกมไวคล้าย UNO มีปฏิสัมพันธ์ทางฮั้วระหว่างผู้เล่นด้วยกันสูงอยู่ ตลกดี และยิ่งได้การปรับโฉมใส่ธีมแฟชั่นญี่ปุ่นด้วยแล้ว เลยเป็นเกมที่เราชอบมาก
เกมจบได้ 2 แบบ คือเล่นกันจนการ์ดกองจั่วหมด แล้วนับแต้ม
หรือเล่นวนๆจนใครซักคนถึง 100 แต้มก่อนก็ได้
หรือใครจะลองผสม 2 กล่องแล้วเล่นแบบ 5 คน ก็มันส์ดี
และเกมนี้เป็นเวอร์ชั่น Japanese Only แต่ไม่ต้องห่วงพยัคฆ์อรุณทำคู่มือไทยไว้แล้ว ใครไปเจอที่ญี่ปุ่น มาทักขอคู่มือไทยได้นะ
รีวิวยาวนิดนึงนะ
ขอบคุณที่ติดตามอ่าน สวัสดี