พกความรู้ติดตัวเรื่องระบบเครื่องปริ๊นต์และหมึกมาแบบพอตัว
ก็ได้เวลากำเงินไปหาซื้อเครื่องใหม่ รอบนี้ต้องไม่พลาด...
รีแคปตอนที่แล้วกันหน่อย เราเดินทางมาถึงจุดที่แตกหักกับ printer ที่มีในบ้าน
ด้วยเหตุเพราะหมึกสีดำที่ (ดูเหมือน)จะแตกต่างจากหมึกสีอื่นๆ เลยมีผลต่อการปริ๊นต์บนกระดาษ
รอบนี้จึงตั้งใจหาซื้อ printer ที่ไม่คิดแทน เอาที่ชนิดของสีมันเป็นแบบเดียวกัน
แค่เปลี่ยนยี่ห้อซะ ปัญหาก็น่าจะหมด Problem น่าจะ solved!
การเลือกซื้อเครื่องใหม่ครั้งนี้ได้นำพาเรามาเจอความลับระดับรุนแรงอีกครั้ง
-----------------
ณ เช้าที่สดใสวันหนึ่ง แอร์ในห้องนอนที่เพิ่งปิดไปยังคงเหลือความเย็นสบายติดอยู่ในห้อง
เอื้อมนิ้วเท้าไปกดพัดลม ให้ลมโชยเบาๆพัดแอร์ที่ยังค้างอยู่ไปมา ได้ฟีลสดชื่นแบบเอื่อยเฉื่อยราวอยู่เชียงใหม่
เรานอนไถ feed เพื่อหา printer เครื่องใหม่
ไถๆไปก็เจอเข้ากับคลิปของเหล่าศิลปินแนว Home studio ต่างชาติที่วาดภาพและทำสติ้กเกอร์ออกมาขาย
ช่วงที่กล้องส่ายไปยังชั้นวางของ เราก็ได้เจอกับ printer วางอยู่
รีบ Cap ภาพแล้วเอามาแหวกซูมดูทันที "ฮั่นแน่!! ใช้ printer อะไรกัน"
และเราก็ได้เจอกับ ยี่ห้อ E ขวัญใจชาว Home Studio
ร้อนเลย ร้อนรุ่มอยากได้ เอานิ้วเท้าจิ้มปิดพัดลมแล้วลุกไปอาบน้ำดีกว่า
รุ่นที่เจอในคลิปต่างชาติคราวนี้มีรีวิวดี คนใช้กันเยอะ ราคาห่างจากเครื่องก่อนหน้าแค่ 1500 บาท
จัดอยู่ในกลุ่ม printer ติดบ้าน เอาล่ะ แพงขึ้นนิดนึงมันต้องดีขึ้นสิ คิดง่ายๆ
มันคือ Epson L3250 เป็นเครื่องระบบ Inkjet ใช้หมึก Dye Ink ถังสีแยกอยู่ด้านนอกเหมือนกระเป๋าหน้าหน้าท้องจิงโจ้
หลายรีวิวบอกว่าสีสวยตรงคมชัด และราคาอยู่ที่ 4xxx
ประเด็นคือในงาน Thailand Indy Games Market มีการแนะนำให้เหล่านักออกแบบบอร์ดเกม
ใช้กระดาษที่มีความหนา 250 แกรมขึ้นไปในการทำการ์ด เพื่อคุณภาพของเกมที่ไม่ขี้เหร่จนเกินไป
เราเลยจะจัด 300 แกรมไปเลยดีกว่าเล่นใหญ่ไฟกระพริบ การ์ดในเกมจะได้ไม่อ่อนแอ เฉียบ!
คิดได้ปุ๊บก็เอาเรื่องนี้ไปคุยกับแชท (ChatGPT)
แชทๆ ช่วยแนะนำกระดาษ 300 แกรมที่เหมาะกับเครื่องปริ๊นต์ Epson L3250 หน่อย
ถามฟีลเหงาหาเพื่อนคุย แต่สิ่งที่แชทเตือนมานั้นเรียกว่าตบกบาลกลับมา ช่วยชีวิตเราไว้ได้อย่างหวุดหวิด
โดยมันตอบว่า หากเราเอา L3250 ไปปริ๊นต์การ์ดเกม มันอาจจะซวยแทนสวยนะพี่
"เครื่องพิมพ์ Epson L3250 เป็นเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทระบบแท็งก์ที่รองรับการพิมพ์กระดาษได้หลากหลาย
แต่มีข้อจำกัดเรื่องความหนาของกระดาษที่รองรับ โดยปกติแล้วรุ่นนี้จะรองรับกระดาษได้หนาสุดประมาณ 180 แกรม"
ห้ะ จริงดิ! ทรุดดด
เคยเป็นมั้ยที่เครื่องร้อง ฟื่ดๆๆๆๆๆ เพื่อจะดึงกระดาษลงไปพิมพ์แต่ดึงไม่ได้ แล้วอยู่ๆก็ร้อง "ค่อก!"
ตุยแน่นิ่งไปพร้อมมีไฟกระพริบวาบๆสีส้ม เพื่อบอกว่ามันสู่ขิต
นั่นแหละอาการของเครื่องที่สเปกต่ำเกินกว่าจะพิมพ์กระดาษหนาเกิน 180 แกรม ซึ่งเมื่อพิจารณาดูแล้ว
มันคือ printer ระดับใช้งานในบ้านเกือบทั้งหมดที่สนนราคา 1xxx-4xxx
พาลนึกย้อนไปสมัยวัยรุ่นที่เคยพิมพ์รายงาน ตอนทำปกแล้วกระดาษชอบติดแหง่ก น่าจะเป็นเพราะเหตุนี้นี่เอง
เราโทษแต่ตัวเองมาตลอดว่ากดอะไรผิดแน่ๆเลย เรื่องนี้เชื่อว่าหลายคนต้องเคยเจอมาก่อน
เพราะ Printer ที่เราซื้อนั้นไม่ได้เขียนบอกเราบนฝากล่องเลยว่า ใช้กับกระดาษไม่เกิน 180 แกรมเท่านั้น
จงใจปิดบังรึเปล่าเนี่ย? หาาาา
"แล้วทางแก้มีมั้ยแชท?"
เราถามแชทต่อด้วยความร้อนรน หวังว่า ai จะคายทางแก้ที่ฉลาดมาให้
แชทแนะนำทางแก้ให้เราว่า หากอยากพิมพ์งานบนกระดาษ 300 แกรมให้ได้ มี 3 ทางคือ
เปลี่ยนเครื่อง เปลี่ยนใจไปใช้บริการร้าน และ เปลี่ยนกระดาษซะ
อ่าว นี่มันแปลว่า ไม่มีทาง นี่หว่าแชท
แล้วต้องทำยังไง?
คำตอบที่เราได้รับไม่ว่าจะถามวนกี่ครั้ง ดูเหมือนจะชี้ตรงไปที่เพียงหนึ่งเดียว นั่นคือ
ขยับไปซื้อรุ่นที่สูงขึ้นซะ!
เมื่อพิจารณาจากความหนาของกระดาษ printer ราคา 4xxx จึงช่วยเหลืออะไรเราไม่ได้เลยหากจะทำบอร์ดเกมในครัวเรือน
เป็นความจริงที่เจ็บนิดๆ แต่ก็ช่วยให้การตัดสินใจเรา Slow down ลง ค่อยๆคิดทบทวนมากขึ้น
มานึกย้อนอีกที คลิปที่เราดูทุกคนล้วนทำธุรกิจ Sticker กันนี่หว่า
ความหนาของกระดาษมันไม่เกิน 180 แกรมอยู่แล้ว บ้าจริง เกือบไปแล้ว!!
โชคดีที่ยังไม่ได้ออกไปซื้อเครื่องใหม่
ด้วยเหตุนี้เราจึงจำเป็นต้องขยับการซื้อ printer ให้สูงขึ้นไปอีก 1 ขั้น จากระดับราคา 3xxx - 4xxx บาท
ไปอยู่ที่เครื่องระดับราคา 1xxxx เหงื่อเริ่มตกกันเลยทีเดียว แต่วิบากกรรมมันยังไม่จบแค่นั้น